Learning Log1
7th August ,2015
กาล
คำกริยาในประโยคภาษาอังกฤษจะบอกการกระทำให้ทราบว่าเกิดขึ้นเมื่อไร
เกิดขึ้นแล้ว หรือกำลังจะเกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นแล้วในอดีต
และยังคงดำเนินต่อไปคำกริยาในประโยคภาษาไทยไม่บอกกาลเวลาแปลเป็นภาษาไทยมักจะมีปัญหาเรื่องเวลาประโยคในภาษาอังกฤษที่ใช้กาลต่างกันอาจแปลเป็นภาษาไทยเหมือนกันคล้ายกับว่าไม่มีข้อแตกต่างกันเลย
ทำให้คำแปลไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ดังเช่นประโยคภาษาอังกฤษ 2 ประโยคนี้
1.
He
lived in Lampang for a year.
Past Simple เขาเคยอยู่ลำปางมาก่อน1ปี อยู่เมื่อไรไม่ทราบ ทราบแต่ว่าอยู่ก่อนเวลาพูดถึง
และเดี๋ยวนี้ไม่ได้อยู่แล้ว
2.
He has lived in Lampang for a year.
Present Perfect เขาอยู่ลำปางมาแล้วเป็นเวลา1ปี เดี๋ยวนี้เขาก็กำลังอยู่
รูปประโยคในภาษาอังกฤษทั้งสองประโยคไม่มีคำขยายใดๆบอกให้รู้ว่าเคยอยู่มาแล้วแต่เดี๋ยวนี้ไม่อยู่
สิ่งที่บอกให้ทราบคือ รูปของคำกริยาที่ใช้กาลต่างกันในภาษาไทยไม่บอกกาลเวลาแปลจึงจำเป็นต้องเติมคำขยายให้ได้ความหมายแต่ถ้าจำเป็นต้องเติมข้อความให้ถือหลักว่า
สั้น กะทัดรัด และได้ใจความที่สุด
ข้อแนะนำในการแปลเกี่ยวกับปัญหาเรื่องกาลมีดังนี้
1.
ต้องเข้าใจว่ากาลในภาษาอังกฤษนั้นนอกจากบอกว่าการกระทำเกิดขึ้นเมื่อไรแล้ว
ยังบอกให้ทราบสิ่งอื่นด้วย เช่นการคาดคะเน
2.
ตีความให้ได้ก่อนว่าการใช้กาลนั้นๆในประโยคนั้นหมายความว่าอย่างไร
3.
ในภาษาไทย
การใช้ข้อความอย่างไรจึงจะได้ความหมายตรงนั้น
4.
ถ้าจำเป็นต้องเติมตัดเกี่ยวกับเวลาต้องให้มีลักษณะและสำนวนเป็นไทยในรูปแบบที่เข้าใจกันโดยทั่วไป
Present Simple
Orange
grow in warm climate. / ส้มขึ้นในประเทศที่มีอากาศอบอุ่น(บอกถึงความจริงทั่วๆไป)
Past Simple
His
mother was a beautiful girl. /
มารดาเขาเคยเป็นผู้หญิงสวยมาก่อน
Present Perfect
This
clock should run well now. I have repaired it. / คราวนี้นาฬิกาควรจะเดินดีผมซ่อมเรียบร้อยแล้ว
Present Continuous
I
speak five language , but I am speaking Spanish now. / ผมพูดได้5ภาษาแต่ขณะนี้ผมกำลังพูดภาษาสเปน
Past Perfect and Past Simple
Pranee
had sent us a letter before she left. /
ปราณีส่งจดหมายให้เราก่อนจะไป
Future time
ภาษาอังกฤษไม่มีรูปคำกริยาโดยเฉพาะเพื่อแสดงอนาคตกาล
การแสดงถึงเรื่องราวในอนาคตโดยปกติใช้รูปกริยา will
หรือ shall
+ กริยา
We shall (will) tell him the truth. / เราจะเล่าความจริงให้เขาฟัง
เมื่อกล่าวถึงเหตุการณ์ในอนาคตบางครั้งไม่ต้องใช้
will หรือ shall อาจจะใช้กาลอื่นบางกาลแทนได้แต่ถ้าหากใช้กาลอื่นอาจจะเข้าใจผิดได้จึงต้องสังเกตกริยาวิเศษณ์บอกเวลาหรือบริบทให้ดี
He
is to leave at six o’clock. /
เขาจะต้องไปเวลา 6.00น.
They
are leaving tomorrow. /
พวกเขาจะไปพรุ่งนี้
วลีภาษาอังกฤษจำพวก adverb of frequency modal หรือ
คำชนิดอื่นจะช่วยให้การเลือกใช้ถ้อยคำเพื่อถ่ายทอดความหมายระหว่างภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้กว้างขวางขึ้นอีก
May อาจ
อาจจะ คงจะ
Likely ย่อม
ย่อมจะ คล้ายจะ
Just เพิ่ง เพิ่งจะ
Almost จวน
จวนจะ แทบจะ
Also พลอย
ด้วย
Should ควร
ควรจะ
Very แสน
แสนจะ
Etc.
วลีที่ให้ไว้นี้ให้ไว้เฉพาะความหมายที่ช่วยบอกกาลของคำกริยาเพื่อพิจารณาคู๋กับบริบทเท่านั้น
ความหมายอื่นเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว เช่น very
แปลว่า มาก ยิ่ง ยิ่งนัก ก็ได้
.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น