การฝึกทักษะการอ่าน
ในการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษนั้นมีทั้งภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติที่ผู้เรียนจะต้องมีการฝึก
และในภาคปฏิบัตินั้นจะประกอบไปด้วยทักษะ ทั้งหมด 4ทักษะ
คือ ทักษะการฟัง ทักษะการพูด ทักษะการอ่าน และทักษะการเขียน และสำหรับในสัปดาห์ที่ผ่านมาดิฉันได้ทำการฝึกทักษะการพูด
ทักษะการฟัง และในสัปดาห์นี้ดิฉันคิดว่าจะทำการฝึกทักษะการอ่าน
เพราะทักษะการอ่านนั้นมีความสำคัญกับวิชาการเรียนมาก เพราะทักษะการอ่านนั้นมันสามารถช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจในเนื้อหาในสิ่งที่อ่านและสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นไปแก้ปัญหาได้ และเมื่อดิฉันได้ลองกลับไปอ่านบทความ ข่าวต่างๆ
หรือแม้แต่อ่านคำสั่งบางครั้งยังแปลความหมายได้ผิดเพี้ยน
ดิฉันจึงคิดว่าดิฉันควรจะพัฒนาทักษะการอ่าน ซึ่งดิฉันได้พัฒนาทักษะการฟังดังนี้
วันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2558 ดิฉันได้เริ่มฝึกทักษะการอ่าน โดยในวันนี้ดิฉันได้เลือกฝึกทักษะการอ่านโดยการอ่านบทความภาษาอังกฤษ
ซึ่งมาจากเว็บไซต์ http://www.dmc.tv/pagesTreasure.html ซึ่งในเว็บไซต์นี้จะเป็นบทความภาษาอังกฤษซึ่งมีชื่อเรื่องว่า
สมบัติล้ำค่าของคุณยาย Priceless Treasure
ซึ่งเหตุผลที่เลือกอ่านบทความนี้เพราะดิฉันได้ลองใช้ทักษะ skimming
, scanning แล้วจึงพบว่าเนื้อหาไม่เยอะมากจนเกินไป
โดยในตอนแรกดิฉันได้อ่านแบบรวดเร็วผ่านไปหนึ่งรอบและเมื่อเห็นคำศัพท์แปลกดิฉันได้ขีดเส้นใต้ไว้
เก็บไว้หาความหมายแล้วเมื่อดิฉันอ่านจบ ดิฉันก็ลองอ่านออกเสียงแบบช้าๆ
เพราะจะได้เป็นการฝึกทักษะการพูด การออกเสียงด้วยว่าออกเสียงผิดหรือถูกตามหลัก phonetics
หรือไม่และเมื่อได้อ่านออกเสียงผ่านไป
รอบนี้ดิฉันได้อ่านในใจและแปลความหมายโดยแปลทั้งคำที่ใกล้เคียงและแปลด้วยการเปิดdictionary
จะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับคำสอนของคุณยายให้รักษาหมั่นทำบุญกันไว้
และดูแลทำนุรักษาพระพุทธศาสนาและทำอะไรจะต้องมีความบริสุทธิ์ใจ
และเมื่อแปลเสร็จและทำความเข้าใจเนื้อหาแล้วดิฉันจึงได้อ่านอีกครั้งพบว่าบทความนี้เป็นเรื่องที่อ่านง่าย
และน่าสนใจมาก
วันที่ 3กันยายน พ.ศ. 2558 วันนี้ก็เป็นวันที่ดิฉันได้ทำการพัฒนาฝึกทักษะการอ่าน
และในวันนี้ดิฉันก็เลือกฝึกทักษะการอ่านโดยในวันนี้ดิฉันได้เลือกอ่านบทความภาษาอังกฤษ
ซึ่งมาจากเว็บไซต์ http://www.dmc.tv/pages-The-Brightness-of-the-Sun.html ซึ่งในเว็บไซต์นี้จะเป็นบทความภาษาอังกฤษซึ่งบทความนี้มีชื่อเรื่องว่า The Brightness of the Sun
ซึ่งพอเห็นชื่อเรื่องแล้วพบว่าชื่อเรื่องมีความน่าสนใจ
เลยทดลองอ่านแบบผ่านๆดู แล้วหลังจากนั้นไปแปลความหมายของชื่อเรื่อง
จึงได้ชื่อเรื่องว่า ความสว่างของตะวัน
พบว่าชื่อเรื่องมีความไพเราะน่าค้นหาให้อ่าน จึงได้อ่านออกเสียงในรอบแรก
เพราะจะได้ฝึกพูด และฝึกออกเสียงคำศัพท์ให้ถูกต้องตามหลัก phonetics ด้วยว่าได้อ่านเสียงชัดเจน และมีการเน้นพยางค์ได้ถูกตำแหน่ง
และก็ขีดคำศัพท์ยากไว้ด้วย เมื่ออ่านเสร็จ
ดิฉันจึงอ่านในใจและแปลความหมายทั้งโดยแปลทั้งคำที่ใกล้เคียงและแปลด้วยการเปิดdictionary ซึ่งบทความนี้เป็นบทความที่เนื้อหาไม่มากนักเมื่อแปลออกมาแล้วพบว่า
เป็นเนื้อหาที่ดีเพราะเป็นการให้กำลังใจของคนที่กำลังจะสิ้นหวัง
ต้องสู้เข้าไว้เพราะวันพรุ่งนี้ก็จะเห็นแสงสว่างของดวงอาทิตย์
แต่เวลาทำอะไรจะต้องมีสติไม่ฟุ้งซ่านแล้วทุกอย่างจะผ่านไป
เมื่อเสร็จแล้วดิฉันจึงอ่านทวนอีกครั้งยิ่งอ่านซ้ำยิ่งมีความรู้สึกดี
และมีความไพเราะในเนื้อหามากจึงไม่ผิดหวังที่เลือกบทความนี้
วันที่ 6 กันยายน พ.ศ.2558 วันนี้ก็เป็นวันที่ดิฉันได้ทำการพัฒนาฝึกทักษะการอ่าน
และในวันนี้ดิฉันก็เลือกฝึกทักษะการอ่านโดยในวันนี้ดิฉันได้เลือกอ่านบทความภาษาอังกฤษ
ซึ่งมาจากเว็บไซต์ http://www.myenglishpages.com/site_php_files/reading_education.php ซึ่งในเว็บไซต์นี้จะมีบทความที่เกี่ยวกับการพัฒนาทักษะการอ่านเยอะมาก
และในวันนี้ดิฉันได้เลือกอ่านบทความในหัวข้อ Education ซึ่งจะเป็นหัวข้อที่เน้นไปทางเนื้อหาที่เป็นวิชาการ
ที่ดิฉันเลือกอ่านเรื่องนี้เพราะเห็นชื่อบทความซึ่งเกี่ยวกับการศึกษา
คิดว่าถ้าอ่านคงจะความรู้และมีประโยชน์เกี่ยวกับการศึกษาในเรื่องความรู้รอบตัวบ้าง
และรอบแรกดิฉันได้อ่านโดยใช้ทักษะ skimming , scanning
แล้วจึงพบว่าเนื้อหาจัดว่าเยอะพอสมควรแต่ก็ไม่เยอะจนเกินไป
โดยในตอนแรกดิฉันได้อ่านแบบรวดเร็วผ่านไปหนึ่งรอบและเมื่อเห็นคำศัพท์แปลกดิฉันได้ขีดเส้นใต้ไว้
ซึ่งมีหลายคำมาก และหลังจากนั้นรอบที่สอง ดิฉันได้อ่านแบบออกเสียง เพราะจะได้ฝึกพูด
และฝึกออกเสียงคำศัพท์ให้ถูกต้องตามหลัก phonetics ด้วยว่าได้อ่านเสียงชัดเจน
และมีการเน้นพยางค์ได้ถูกตำแหน่งหรือไม่ และเมื่ออ่านเสร็จ
ดิฉันจึงอ่านในใจและแปลความหมายทั้งโดยแปลทั้งคำที่ใกล้เคียงและแปลด้วยการเปิดdictionary จึงพบว่าเนื้อหาเกี่ยวกับบทความนี้เกี่ยวกับระบบการศึกษาทั้งระดับประถมศึกษา
และระดับมัธยมศึกษาและการจัดหลักสูตรเหมาะสมต่อการเรียน
ซึ่งดิฉันถือว่าได้เป็นความรู้รอบตัวและเกี่ยวข้องกับหลักสูตรที่ดิฉันศึกษาคือหลักสูตรครุศาสตร์ซึ่งเกี่ยวกับการศึกษา
ดิฉันคิดว่าไม่ผิดที่ได้เลือกอ่านบทความนี้
เนื่องจากในโลกปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นโลกแห่งโลกาภิวัตน์
และเป็นยุคแห่งเทคโนโลยีกำลังเฟื่องฟู และโลกออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น การสื่อสารไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารทางตรงหรือการสื่อสารออนไลน์ยิ่งได้มีการพัฒนามากขึ้น
ดังนั้นทักษะทั้ง4จึงมีความเกี่ยวข้องกันเป็นอย่างมาก
นอกจากฟังและพูดได้แล้วการอ่านก็ถือว่าสำคัญ ถึงแม้ว่าเราจะอ่านออก
แต่เราไม่เข้าใจบทที่อ่าน แปลความหรือถอดความไม่ได้
เราก็ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เพราะแค่อ่านได้ เราก็สื่อสารกันไม่ได้
การอ่านนั้นจึงมีความสำคัญไม่น้อยกว่าทักษะอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องอ่านเรื่องที่ทางการ
เราอ่านข่าวต่างประเทศ
หรืออ่านนิทานเป็นภาษาอังกฤษได้ก็ถือว่าได้เป็นการฝึกหลังจากดิฉันได้ทำการฝึกทั้งบทความที่เป็นวิชาการ
และบทความที่ผ่อนคลาย จึงทำให้ดิฉันได้พัฒนาทักษะทั้งการอ่าน และการพูดไปในตัว
เพราะมันมีความสัมพันธ์กัน ทำให้เราเความรู้ทั้งสองทาง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น