การพัฒนาทักษะการฟัง
ภาษาอังกฤษเข้ามา
มีบทบาทในชีวิตของคนไทย และคนทั่วโลกไปแล้ว
ส่วนใหญ่ประชากรในโลกทุกวันนี้สื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษ
ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสารกันโดยตรง การใช้อินเตอร์เน็ต การดูทีวี
การดูภาพยนตร์ การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หนังสือต่างๆ บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาออกมาในปัจจุบัน
ถ้ามีความรู้ภาษาอังกฤษทั้งพูดและเขียน
จะเพิ่มโอกาสที่จะหางานก็จะไม่จำกัดแค่ในประเทศไทย เท่านั้น
ถ้าเราเป็นคนหนึ่งที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้
ด้วยเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ทำให้โลกของเราแคบลงไปถนัดตา ทุกวันนี้เรารับรู้ข่าวสาร
หรือติดต่อกับเพื่อนต่างชาติได้ภายในเสี้ยววินาที
เราจะไม่เข้าถึงสิทธิพิเศษเหล่านี้เลย ถ้าเราไม่รู้ภาษาอังกฤษ
การรู้ภาษาอังกฤษนั้นจะประกอบไปด้วยหลายทักษะนั่นก็คือ ทักษะการฟัง ทักษะการพูด
ทักษะการอ่าน ทักษะการเขียน ซึ่งทั้ง4ทักษะเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญเท่าๆกันไม่มีสิ่งใดน้อยกว่าหรือสิ่งใดมากกว่า
ซึ่งในสัปดาห์นี้ดิฉันจึงเลือกพัฒนาทักษะการฟังอีกครั้ง
เพราะการฟังเป็นสิ่งที่เราต้องไว้ใช้สื่อสารจึงควรมีการพัฒนาและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
วันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558ดิฉันได้เริ่มฝึกทักษะการฟัง โดยในวันนี้ดิฉันได้เลือกการฟังเพลงภาษาอังกฤษจากเว็บไซต์
www.youtube.com ซึ่งในวันนี้ดิฉันได้เลือกฟังเพลง
If You Come Backซึ่งเป็นผลงานเพลงของนักร้องที่มีชื่อว่า Blueซึ่งเพลงนี้มันเป็นเพลงที่เหมาะแก่การฝึกทักษะเป็นอย่างมากเพราะว่าเพลงเพลงนี้ทำนองและการร้องเพลงจะไม่เร็วมากและไม่ช้าจนเกินไป
ฟังง่ายและเวลาของเพลงนี้ก็ไม่เยอะจนเกินไป ซึ่งเพลงเพลงนี้มีความยาว 3.28นาที ซึ่งถือว่าไม่เยอะเพลงนี้มีความไพเราะโดยฟังในรอบแรกดิฉันคิดว่าน่าจะเป็นเพลงที่เนื้อหาฟังง่าย
โดยฟังในรอบนี้ดิฉันฟังแบบไม่มีเนื้อเพลง และลองจดเนื้อเพลงตามไปด้วยเป็นเพลงช้าจึงทำให้จดทัน
โดยในเพลงนี้เป็นเพลงที่มีการลิงค์คำเชื่อมประโยคมากและดิฉันก็ฟังออกบ้าง
และเมื่อฟังเสร็จดิฉันจึงเปิดอีกครั้งแต่เปิดในครั้งนี้เปิดในรูปแบบที่มีเนื้อเพลงแล้วนำมาเปรียบเทียบกับเนื้อเพลงที่จดไว้กับเนื้อเพลงจริงปรากฏว่าเป็นไปดังคาด
ดิฉันฟังออกและจดทันและมีก็ยังมีบ้างคำที่ฟังไม่ออกและคำที่ผิดพลาดถือว่ามีหลายคำอยู่
ซึ่งเพลงๆนี้หลังจากฟังเสร็จแล้วฉันนำไปแปลและลองเรียบเรียงเนื้อหาได้ความว่าเพลงนี้จะเกี่ยวกับคนรักคู่หนึ่งที่รักกันแต่มีการผิดใจกันทำให้ฝ่ายหญิงทิ้งไปแต่ฝ่ายชายเพียรพยายามที่จะตามหาและอ้อนวอนให้คนรักกลับมาซึ่งเมื่อดิฉันได้แปลและเรียบเรียงเสร็จแล้วดิฉันก็ได้เปิดฟังอีกหลายๆครั้งและได้ร้องตามด้วย
เพราะได้ฝึกทักษะการออกเสียงด้วยทั้งเสียง initial sound , final sound และการ stress คำให้ถูกพยางค์ หลังจากได้ฟังเพลงนี้ได้ถอดความ
และได้ร้องตามทำให้ฉันได้ฝึกหลายทักษะในเวลาเดียวกัน
วันที่
24 กันยายน พ.ศ. 2558ดิฉันได้เริ่มฝึกทักษะการฟัง โดยในวันนี้ดิฉันได้เลือกการฟังเพภาษาอังกฤษจากเว็บไซต์
www.youtube.com ซึ่งในวันนี้ดิฉันได้เลือกฟังเพลงI
believe I can flyซึ่งเป็นผลงานเพลงของนักร้องที่มีชื่อว่า R.
Kelly ซึ่งเพลงนี้มีทำนองมีจังหวะที่ฟังง่าย
เป็นเพลงที่ช้าๆฟังแล้วซึ้ง เพลงนี้จัดว่าเป็นเพลงที่นานเพราะว่าเพลงนี้มีความยาวถึง
5.22นาที เพลงนี้มีความไพเราะโดยในเพลงนี้จะมีการการลิงค์คำเชื่อมประโยคไม่มากซึ่งดิฉันคิดว่าดิฉันฟังออกอยู่บ้าง
โดยที่ดิฉันได้เลือกฟังเพลงนี้เพราะตอนแรกดิฉันได้อ่านแค่ชื่อเพลง ชื่อเพลงยังบ่งบอกถึงความสนุกความไพเราะดิฉันคิดว่าถ้าได้ฟังคงผ่อนคลาย
เพราะชื่อเพลงยังแปลได้ว่าฉันเชื่อว่าฉันสามารถโบยบินชื่อเพลงยังดูสนุก
หลังจากนั้นดิฉันได้ฟังในรอบแรกโดยไม่เปิดเนื้อเพลงแล้วลองจดเนื้อเพลงตาม
อาจจะเป็นเพราะเพลงช้าด้วยดิฉันจึงฟังและจดทันตามทันถึงแม้บางคำจะจดผิดเพี้ยนไปบ้าง
เมื่อฟังรอบนี้เสร็จดิฉันจึงเปิดอีกครั้งแต่เปิดในรูปแบบมีเนื้อร้องพบว่าดิฉันจดตามได้ถูกเกือบหมด
และคำที่ดิฉันฟังไม่ออกแล้วดิฉันคิดว่าดิฉันฟังผิดเพี้ยนก็เป็นไปดังคาดคือดิฉันฟังได้ผิดมากและไม่ได้ใกล้เคียงเลย
เมื่อดิฉันฟังเสร็จและตรวจทานเนื้อเพลงเสร็จดิฉันก็ได้ลองแปลและเรียบเรียงเนื้อเพลงจากที่ดิฉันจดไว้และเรื่องที่ดิฉันเรียบเรียงและแปลได้มีดังนี้คือ
เนื้อเพลงจะเป็นประมาณว่าบุคคลในเพลงคิดว่าเขาไม่สามารถก้าวต่อไปได้
เขาคิดว่าชีวิตเขาไม่มีความหมายแต่เมื่อได้พบกับพระเจ้าทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไป
และจากที่เคยคิดว่าทำไม่ได้ถ้าได้ลองทำมันจริงมันก็จะทำได้
เหมือนดั่งชื่อเพลงที่ว่าเขาสามารถบินได้ เขาสามารถไปแตะที่ขอบฟ้าได้
เขาบอกว่าเขาสามารถทำทุกอย่างได้ทุกอย่างมันอยู่ที่ความเชื่อ
และเมื่อดิฉันแปลเสร็จดิฉันจึงเปิดซ้ำๆหลายรอบ เพราะเพลงนี้เป็นเพลงคลาสสิกที่สามารถฟังได้ทุกยุคทุกสมัยได้ทั้งการฝึกและได้ทั้งความผ่อนคลาย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น