การฝึกทักษะการพูด
การสื่อสารในชีวิตประจำวันของคนเราใช้การฟังมากกว่าทักษะอย่างอื่น
การฟังเป็นความสามารถในการรับรู้สิ่งที่ได้ยินแล้ว
สามารถตีความหรือจับใจความสิ่งที่รับรู้นั้นสามารถเข้าใจและจดจำไว้ได้
ซึ่งเป็นความสามารถทางสติปัญญาที่ต้องอาศัยการฝึกฝนบ่อย ๆ ผู้ที่ผ่านการฝึกทักษะการฟัง
จะมีทักษะสูงกว่าผู้ที่ไม่ได้ฝึกและทักษะการฟังจะเพิ่มพูนขึ้นโดยการฝึก
ซึ่งจะต้องทำเป็นเวลานาน
อาจกล่าวได้ว่าต้องฝึกตลอดชีวิตและเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมาดิฉันได้ทำการฝึกทักษะการฟังไปบ้างแล้วและดิฉันได้ทำการสำรวจตนเองอีกครั้งแล้วพบว่าถึงแม้ว่าจะได้มีการฝึกไปบ้างแล้วแต่หากปล่อยไว้หลายสัปดาห์ไม่ค่อยได้ฟังแบบจริงจังก็อาจจะ
บกพร่องและมีปัญหาอีกครั้งก็เป็นได้ดังนั้นในสัปดาห์นี้ดิฉันจึงได้ทำการฝึกทักษะการฟังอีกครั้ง
วันที่ 9กันยายน พ.ศ. 2558
ดิฉันได้เริ่มฝึกทักษะการฟัง โดยในวันนี้ดิฉันได้ฝึกทักษะโดยการดูภาพยนตร์ภาษาอังกฤษ เรื่อง Herculesซึ่งเป็นการฟังบทสนทนาของตัวละครนั่นเอง
ซึ่งฉันได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้จากเว็บไซต์ www.youtube.com
เพราะว่าทางเลือกที่ง่ายที่สุดในยุคเทคโนโลยีกำลังเฟื่องฟูคือยูทูบเพราะนอกจากได้ฝึกฝนไปในตัวเรายังได้ความผ่อนคลายซึ่งเรื่องHercules นี้จะเกี่ยวกับเรื่องราวตำนานของเทพเจ้าซุสซึ่งมีเนื้อเรื่องโดยรวมคือเป็น
วีรบุรุษแห่งกรีก ผู้ทรงพลังมหาศาล ซึ่งได้รับว่าจ้างจากราชาแห่งเธรส
เป็นผู้ฝึกสอนกองทัพทหารให้เป็นกองทัพที่ยิ่งใหญ่ ไร้ความปรานีและกระหายสงคราม
ซึ่งการดูหนังเรื่องนี้จะมีการต่อสู้ มีสงครามเป็นจำนวนมากโดยฟังในตอนแรกดิฉันฟังไม่รู้เรื่องเพราะดิฉันไม่ได้เปิดซับไตเติ้ลและในหนังตัวละครพูดเร็วมากจึงดูได้ไม่ถึงครึ่งเรื่อง
และดิฉันก็หยุดดูแล้วกลับมาเปิดใหม่โดยในรอบนี้เปิดซับไตเติ้ลด้วยถึงแม้ว่าจะเปิดซับไตเติ้ลแล้วก็ยังฟังไม่ค่อยถนัดเท่าที่ควร
เพราะหนังก็มีความตื่นเต้นลุ้นตลอดเวลา ซึ่งดิฉันคิดถูกที่กลับมาฝึกทักษะการฟังอีกครั้งหลังจากหยุดไป
2 สัปดาห์
เพราะปกติจะดูและฟังอะไรที่ช้าๆและผ่อนคลายแต่หนังเรื่องนี้มีทั้งความเร็วในการใช้ภาษาและการลุ้นสร้างความตื่นเต้นตลอดเวลา
วันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2558ดิฉันได้เริ่มฝึกทักษะการฟัง โดยในวันนี้ดิฉันได้เลือกการฟังเพลงภาษาอังกฤษจากเว็บไซต์
www.youtube.com
ซึ่งในวันนี้ดิฉันได้เลือกฟังเพลง Puff (The Magic Dragon) ซึ่งเป็นบทเพลงของนักร้อง Peter,Paul& Mary
ซึ่งเพลงนี้มันเป็นเพลงที่เหมาะแก่การฝึกทักษะเป็นอย่างมากเพราะว่าเพลงๆเพลงนี้ทำนองและการร้องเพลงจะคล้ายๆการฟังพากย์การ์ตูนฟังสบายๆ
ผ่อนคลาย โดยในรอบแรกของการฟังดิฉันเปิดแบบไม่มีซับไตเติ้ล และลองจดเนื้อเพลงตามไป
เมื่อฟังเสร็จจึงเปิดอีกครั้ง และในรอบนี้เปิดเนื้อเพลงด้วย
และเปรียบเทียบเนื้อเพลงที่จดไว้ด้วย พบว่าฟังได้ดีกว่าการฟังสนทนาในหนัง
และได้แปลเนื้อเพลงด้วยซึ่งเป็นไปดังคาดคือเพลงจะเกี่ยวกับตัวการ์ตูน
มังกรที่มีความแตกต่างกันในใช้ชีวิต
โดยในเพลงนี้มีการเชื่อมคำและลิงค์คำเข้าด้วยกันไม่เยอะ จัดว่าเป็นเพลงที่ฟังง่ายมาก
และเมื่อฟังรอบนี้เสร็จดิฉันได้เปิดอีกครั้งแต่เปิดในรูปแบบไม่มีเนื้อเพลงและดิฉันก็ร้องตาม
เพราะฟังง่าย และร้องตามได้ง่ายอีกด้วย
วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558ดิฉันได้เริ่มฝึกทักษะการฟัง
โดยในวันนี้ดิฉันได้เลือกการฟังเพลงภาษาอังกฤษอีกครั้งหนึ่งจากเว็บไซต์ www.youtube.comซึ่งในวันนี้ดิฉันได้เลือกฟังเพลง
When You Say Nothing At All ซึ่งเป็นบทเพลงของนักร้อง Ronan Keating
เพลงนี้เป็นเพลงที่ค่อนข้างฟังง่าย เพราะดนตรีและจังหวะของเพลงเป็นเพลงช้าๆฟังแล้วเพลิดเพลินลื่นหูมาก
โดยฟังในรอบแรกดิฉันคิดว่าน่าจะเป็นเพลงที่เนื้อหาไพเราะ
โดยฟังในรอบนี้ดิฉันฟังแบบไม่มีเนื้อเพลง
และลองจดเนื้อเพลงตามไปด้วยเป็นเพลงช้าจึงทำให้จดทัน
โดยในเพลงนี้เป็นเพลงที่มีการลิงค์คำเชื่อมประโยคไม่มากและดิฉันก็ฟังออกบ้าง
และเมื่อฟังเสร็จดิฉันจึงเปิดอีกครั้งแต่เปิดในครั้งนี้เปิดในรูปแบบที่มีเนื้อเพลงแล้วนำมาเปรียบเทียบกับเนื้อเพลงที่จดไว้กับเนื้อเพลงจริงปรากฏว่าเป็นไปดังคาด
ดิฉันฟังออกและจดทันและมีคำที่ฟังไม่ออกและคำที่ผิดพลาดไม่กี่คำ
และฟังเมื่อเสร็จแล้วดิฉันได้แปลคำศัพท์เพื่อลองถอดเนื้อเพลงพบว่าเพลงนี้เกี่ยวกับความรักของคู่หนุ่มสาว
ที่ผู้หญิงไม่เคยบอกความในใจแก่ผู้ชายแต่ได้มีการบอกเป็นนัยทางสายตาออกมาว่าถึงแม้จะไม่มีการพูดแต่สายตารอยยิ้มและการกระทำบ่งบอกว่าเธอคนนั้นขาดผู้ชายไม่ได้
ซึ่งเมื่อดิฉันได้แปลและเรียบเรียงเสร็จแล้วดิฉันก็ได้เปิดฟังอีกหลายๆครั้งและได้ร้องตามด้วย
เพราะได้ฝึกทักษะการออกเสียงด้วยทั้งเสียง initial sound , final sound และการ stress คำให้ถูกพยางค์ หลังจากได้ฟังเพลงนี้ได้ถอดความ
และได้ร้องตามทำให้ฉันได้ฝึกหลายทักษะในเวลาเดียวกัน
จากการที่ดิฉันได้ฝึกทักษะการฟัง
โดยการฝึกจากการฟังบทสนทนาจากภาพยนตร์ ฟังเพลงทำให้ดิฉันพบว่า
ทักษะการฟังของดิฉันก็มีการพัฒนาขึ้นมาบ้าง
ถึงแม้ว่าการฟังบทสนทนาที่เป็นภาพยนตร์จะฟังไม่ค่อยรู้เรื่องไม่ค่อยเข้าใจ
อาจจะเกิดจากหลายปัจจัยคือ ภาพยนตร์จะอยู่ในแนวการต่อสู้ ละครเดินเรื่องเร็ว และมีการอินไปตามภาพยนตร์
จนบางครั้งไม่ค่อยตั้งใจฟังอย่างเต็มที่แต่ในทางกลับกันเมื่อลองกลับมาฟังเพลงพบว่ามีการฟังได้ดีกว่าและเข้าใจกว่าเดิมอยู่หลายเท่า
ดิฉันจึงคิดว่านี่อาจจะเป็นแนวทางที่ต้องมีการฝึกพัฒนาทักษะต่อไปเรื่อยๆ
เพราะถ้าเกิดทำแล้วหยุด ไม่ได้ทำอย่างต่อเนื่อง
การฝึกทักษะของเราก็อาจจะมีปัญหาต่อไปเรื่อยๆก็เป็นได้
เพราะทักษะการฟังก็เป็นทักษะที่สำคัญมากอีกทักษะหนึ่ง
เพราะจะเกี่ยวข้องกันทั้งทางด้านการสื่อสารในชีวิตจริง การสื่อสารกันในโลกออนไลน์
และเป็นช่องทางในการศึกษาอีกด้วย ดิฉันจึงคิดว่าควรจะต้องทำการฝึกต่อไปเรื่อยๆจากอ่อนด้อยสักวันก็จะกลายเป็นแข็งแกร่ง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น